เพลงอีแซว เป็นเพลงประจำถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีอายุกว่า 100 ปี แต่เดิมนิยมเล่นในลักษณะเกี้ยวพาราสีกันระหว่างชายหญิง โดยใช้ภาษาเรียบง่าย ต่อมาจึงพัฒนามาเป็นเพลงปฏิพากย์ ร้องโต้ตอบกัน และมีความยาวมากขึ้น มีลักษณะสนุกสนาน สามารถเล่นได้ในทุกโอกาส
ผู้แสดง
ฝ่ายหญิงมักใส่เสื้อคอกลมหรือคอเหลี่ยมกว้าง และฝ่ายชายมักใส่เสื้อคอกลมสีสันฉูดฉาด จำนวนผู้แสดงไม่มีกำหนดตายตัว โดยหน้าที่ของผู้แสดงแต่ละคนสามารถแยกได้เป็น พ่อเพลง (ผู้ร้องนำฝ่ายชาย), แม่เพลง (ผู้ร้องนำฝ่ายหญิง), คอต้น (ผู้ร้องนำคนแรก), คอสองและคอสาม, ลูกคู่
ลำดับการเล่น
- บทไหว้ครู เป็นการกราบไว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวง ทั้งพระรัตนไตร เทวดา ภูตผี พ่อแม่ และครูเพลง (ซึ่งมีสองแบบคือ ครูเพลงที่เป็นจิตวิญญาณ เช่นพระนารายณ์ ฤๅษี และครูเพลงที่เป็นคน ได้แก่ คนที่สอนเพลงแก่ผู้ร้อง)โดยจะต้องนั่งกับพื้น และมีพานกำนลถือไว้ขณะร้อง โดยเริ่มร้องที่พ่อเพลงจากนั้นจึงเป็นส่วนของแม่เพลง
- บทเกริ่น เป็นบทร้องของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ก่อนที่จะออกมาพบกัน โดยจะร้องสลับกันไป หลังจากไหว้ครู นักแสดงจะต้องลุกเพื่อร้องเพลงออกตัว ที่ทักทายและแนะนำตัวกันรวมถึงการฝากเนื้อฝากตัวด้วย จากนั้นจึงร้องเพลงปลอบซึงเป็นการชักชวนให้ฝ่ายหญิงออกมาร้องโต้ตอบกัน
- เพลงปะ เป็นเพลงที่ทั้งสองฝ่ายชายและหญิงร้องโต้ตอบกันไปมา ส่วนใหญ่จะเป็นการปะทะคารม มีทั้งในเรื่องราวของความรัก การประลอง หรือเป็นการชำลองนิยายกรือวรรณกรรม
- บทจากหรือบทลา เป็นเพลงที่ร้องเพื่อแสดงความอาลัยกับคู่ร้องและคนดู เนื่องจากใกล้หมดเวลาในการเล่นแล้ว
- การอวยพร เป็นการร้องขอบคุณผู้จ้าง คนดู และผู้ร่วมแสดง
พ่อเพลงและแม่เพลงเริ่มต้นจากบทไหว้ครู ฝ่ายชายจะร้องบทปลอบ จากนั้นฝ่ายหญิงก็จะร้องบทรับแขก ผู้ชายจึงเริ่มการเกี้ยวพาราศี ผู้หญิงอาจจะปะทะอารมณ์ หรือเล่นตัว ฝ่ายชายจึงว่าบทออด ฝ่ายหญิงจึงที่ไม่รับรัก และขอให้ฝ่ายชายมาสู่ขอตนจบด้วยฝ่ายชายขอพาหนี เมื่อหนีแล้วก็เป็นบทชมนกชมไม้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น