บทร้องประวัติเพลงอีแซว
เอ่อ เฮ้อ เออ... เอ่อ เอิ้ง เง้อ... เอ่อ เอิ้ง เงย... อือ...
บรรจงจีบสิบนิ้ว ขึ้นหว่างคิ้วทั้งคู่ (เอิง เงอ เอ๊ย) แล้วทั้งคู่
เชิญรับฟังกระทู้ เอ๋ยแล้วเพลงไทย (เอ่อ เอ้อ เอ๊ย) แล้วเพลงไทย
เชิญสดับรับรส กลอนสดเพลงอีแซว
ฝากลำนำตามแนว เพลงอีแซวยุคใหม่
เพลงอีแซวยุคใหม่ ผิดกับสมัยโบราณ
ถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน นับวันจะสูญหาย
ถ้าขาดผู้ส่งเสริม เพลงไทยเดิมคงสูญ (เอิง เงอ เอ๊ย) แล้งคงสูญ
ถ้าพ่อแม่เกื้อกูล
ลูกก็อุ่นหัวใจ (เอ่อ
เอ้อ เอ๊ย) อุ่นหัวใจ
อันว่าเพลงพื้นเมือง เคยรุ่งเรืองมานาน
สมัยครูบัวผัน และอาจารย์ไสว
ประมาณร้อยกว่าปี ตามที่มีหลักฐาน
ที่ครูบาอาจารย์ หลายๆ ท่านกล่าวไว้
ทั้งปู่ย่าตายาย ท่านก็ได้บอกเล่า (เอิง เงอ เอ๊ย) ได้บอกเล่า
การละเล่นสมัยเก่า ที่เกรียวกราวเกรียงไกร (เอ่อ เอ้อ เอ๊ย) แล้วเกรียงไกร
ในฤดูเทศกาล เมื่อมีงานวัดวา
ทอดกฐินผ้าป่า ก็เฮฮากันไป
ยามตรุษสงกรานต์ ก็มีงานเอิกเกริก
งานนักขัตฤกษ์ ก็เอิกเกริกกันใหญ่
ประชาชนชุมนุม ทั้งคนหนุ่มคนสาว
ทั้งผู้แก่ผู้เฒ่า ต่างก็เอาใจใส่
ชวนลูกชวนหลาน ไปร่วมงานพิธี (เอิง เงอ เอ๊ย) งานพิธี
ถือเป็นประเพณี และศักดิ์ศรีคนไทย (เอ่อ เอ้อ เอ๊ย) แล้วคนไทย
ที่จังหวัดสุพรรณ ก็มีงานวัดป่า
คนทุกทิศมุ่งมา ที่วัดป่าเลไลยก์
ปิดทองหลวงพ่อโต แล้วก็โมทนา
ให้บุญกุศลรักษา มีชีวาสดใส
ได้ทำบุญทำทาน ก็เบิกบานอุรา
สุขสันต์หรรษา ทั่วหน้ากันไป
ได้ดูลิเกละคร เวลาก็ค่อนคืนแล้ว (เอิง เงอ เอ๊ย) ค่อนคืนแล้ว
เพลงฉ่อยเพลงอีแซว ก็เจื่อยแจ้วปลุกใจ (เอ่อ เอ้อ เอ๊ย) แล้วปลุกใจ
หนุ่มสาวชาวเพลง ก็ครื้นเครงล้อมวง
เอ่ยทำนองร้องส่ง ตั้งวงรำร่าย
ร้องเกี้ยวพาราสี บทกวีพื้นบ้าน
เป็นที่สนุกสนาน สำราญหัวใจเ
พลงพวงมาลัย บ้างก็ใส่เพลงฉ่อย (เอิง เงอ เอ้ย) แล้วเพลงฉ่อย
ทั้งลูกคู่ลูกข้อย
ต่างก็พลอยกันไป (เอ่อ เอ้อ
เอ๊ย) พลอยกันไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น